เรื่องราวของผู้เป็นตำนาน Marverick พิช มิชเชล (ทอม ครูซ) หนึ่งในหน่วยรบการบินของท็อปกันที่เก่งที่สุดในอเมริกาผ่านมากว่า 40 ปี ที่เขาสามารถทำลายฝูงบินข้าศึกได้สามลำและยังไม่มีใครทำได้มาก่อน ปัจจุบันท็อปกันได้รวมนักบินที่มีความสามารถพิเศษขึ้นมาอีกครั้งกับภารกิจครั้งใหม่และ Marverick ก็คือคนที่จะมาเป็นครูฝึกให้กับทีมใหม่ที่มีไฟในการเพิ่มทักษะให้มากขึ้นกว่าเดิม

รีวิวหนัง Top Gun: Maverick (ท็อปกัน มาเวอริค)

หนัง Top Gun: Maverick เป็นหนังภาคต่อจากภาคที่แล้วที่รับประกันความเข้มข้น ความสนุก ที่ใครหลายๆคนไม่ควรพลาด

 ต้องขอออกตัวก่อนว่าการรีวิวหนังในครั้งนี้เป็นการรีวิวหนังตามความรู้สึกความเข้าใจของแอดมินอ้วนเองนะคะ อาจจะมีบางฉากบางตอนที่ไม่ได้เล่าเพราะอยากให้ทุกท่านได้ไปชมเอง และอาจจะมีบางอารมณ์ที่แอดมินอ้วนรู้สึกไปตามตัวละครแบบเคลิ้มตามกันเลยทีเดียว หากผิดพลาดหรือทำให้ทุกท่านที่อ่านรีวิวในครั้งนี้ไม่พอใจต้องอภัยไว้ ณ บทความนี้ด้วยค่ะ

กลับมาที่เรื่องย่อของ Top Gun: Maverick เปิดเนื้อเรื่องมาถึงเวลาก็ได้ผ่านมา30ปีจากภาคแรก และในเรื่องของภาคนี้ Maverick 

(รับบทโดย Tom Cruise)  เขาได้รับมอบหมายคำสั่งจาก โรงเรียน top gun ให้ไปทำหน้าที่ฝึกฝนนักบินที่ฉลาดๆรุ่นใหม่ๆ ให้เก่ง และคล่องตัว เพื่อจะได้เตรียมความพร้อมไปทำภารกิจอันยิ่งใหญ่และสำคัญมาก ๆที่ใครหลายคนมองมาแทบจะไม่มีความเป็นไปได้เลยด้วยซ้ำ แต่หนึ่งในนักบินพวกนั้นก็มี Rooster (รับบทโดย Miles Teller) ซึ่งเป็นบุตรชายของ Goose ที่เป็นเพื่อนสนิท Maverick ที่ได้จากไปแบบไม่หวนกลับในภาคแรกในขณะเดียวกัน Rooster มีความรู้สึกไม่ชอบหรือใช้คำว่าเกลียด Maverickเลยก็ว่าได้ เพราะเขาได้เชื่อว่า Maverick คือสาเหตุหลักที่ทำให้พ่อเขาจากไปนั่นเอง ซึ่ง Rooster ได้เตรียมตัวเพื่อที่จะสมัครเข้ากองทัพเรือที่เขาฝันในครั้งแรก Maverick ยังไปดึงใบสมัคร Rooster ออก ซึ่งทำให้ Maverick ต้องเสียทั้งเวลาเสียทั้งความตั้งใจในตอนนั้นแต่เขาก็รอได้ถึง4ปี เพื่อจะมาพิสูจน์ใหม่ ความสนุกกำลังจะเริ่มขึ้นต่อจากนี้หลังจากที่รอมาได้ถึง4ปี ความท้าทายกับบทสอบของทั้งคู่จะไปได้ด้วยดีหรือไม่และมีภารกิจสุดยิ่งใหญ่มาให้ทั้งพิสูจน์ บทสรุปของเรื่องเรื่องราวของทั้งคู่จะเป็นอย่างไร ทั้งคู่จะผ่านบททดสอบนี้ไปได้หรือไม่ ต้องติดตามกันค่ะ

ความคิดเห็นของแอดมินอ้วน 

หนังเรื่องนี้มีองค์ประกอบหลายอย่าง บางอย่างเล็ก ๆ น้อย ๆทั้งนั้น แต่ผู้กำกับและผู้เขียนบทถือว่าเซียนเวทีหนังมามากจึงทำให้เอาอยู่หมัดเลยก็ว่าได้ เนื้อเรื่องดำเนินได้แบบไม่สะดุดไม่มีเวลาให้พักยกเข้าห้องน้ำ แม้แต่จะหันมาถามเพื่อนข้างๆยังไม่ได้เพราะอยากพลาดฉากเด็ดไป เพราะจะรู้สึกไม่ดีมากหากพลาด นักแสดงมีแต่ตัวท็อปฟอร์มทั้งนั้นแสดงได้ถึงอารมณ์ในตอนนั้นไม่มีใครมองไปที่อายุของนักแสดงเลย และบางฉากต้องใช้แรงใชกำลังมาก บอกได้คำเดียวเลยว่าแรงไม่มีตกเลยทั้ง2คน ในส่วนของเรื่องภาพ แสง สี ฉาก เสียง ลงตัวสุดๆ บางฉากต้องยอมรับว่านักแสดงทุ่มเทกันจริง ๆ หนังเรื่องนี้มีหลากหลายอารมณ์ ความรัก  ความสนุก ความบันเทิง เข้าถึงอารมณ์จริง ๆ สุดท้ายแล้วแอดมินอ้วนขอให้คะแนน Top Gun: Maverick ที่ 9/10 คะแนนเลยนะคะ